เงินช็อต เงินไม่พอใช้ แต่อยากได้เงินก้อนด่วนไปทำธุรกิจ หรือมีปัญหาในชีวิตที่ต้องใช้เงินฉุกเฉิน บางครั้งการ “กู้สินเชื่อ” ก็อาจจะเป็นทางเลือกหนึ่งที่สามารถช่วยคุณได้ แต่เลือกกู้ไม่เป็นแบบนี้ทำไงดี !
ทางเลือกในการกู้เงินนั้นมีได้หลายวิธี ซึ่งแต่ละวิธีก็มีวงเงินให้กู้ และดอกเบี้ยที่ไม่เหมือนกัน อีกทั้งยังมีข้อดีข้อเสียที่ต่างกันด้วย ดังนั้นการเลือกรูปแบบการกู้ให้เหมาะสมกับตัวเองจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก
อันดับแรก..ถามตัวเองก่อนกู้
- จำเป็นจริงๆเหรอ กู้แล้วสามารถสร้างรายได้หรือเปล่า จ่ายไหวหรือเปล่า ถ้ามันจำเป็น, สร้างรายได้ในอนาคต และจ่ายไหว ก็ถือว่าเป็น “หนี้ดี” สามารถกู้ได้แต่ต้องระวังดอกเบี้ยและสภาพคล่องด้วย
- มีเงินเก็บหรือทรัพย์สินที่พอขายได้หรือเปล่า ถ้าฉุกเฉินจริงให้ลองพิจารณาว่าสิ่งไหนจำเป็นและไม่จำเป็น หากดูแล้วว่าไม่จำเป็น ก็ขายทิ้งเพื่อให้ได้เงินก้อนดีกว่าเสียดอกเบี้ย
ทำงานประจำหรืออาชีพอิสระ?
ในการพิจารณาให้สินเชื่อใดๆก็ตาม สถาบันการเงินจะมีการพิจารณา คุณลักษณะ ความน่าเชื่อถือ (Character) และ ความสามารถในการชำระหนี้ (Capacity)
แน่นอนว่าคนที่ทำงานประจำมักจะได้รับการอนุมัติสินเชื่อต่างๆมากกว่า เพราะมีรายได้ค่อนข้างแน่นอน สม่ำเสมอ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าอาชีพอิสระหรือฟรีแลนซ์จะกู้ไม่ได้นะครับ
สำหรับอาชีพอิสระ ถ้ามีรายได้ค่อนข้างสูง เดินบัญชีดีๆ จ่ายภาษีครบ รวมถึงมี หลักประกัน (Collaterals) หรือ ทุนที่จะนำมาลง (Capital) คุณก็สามารถกู้สินเชื่อหลายๆประเภทได้เช่นกัน
มีหลักประกันหรือทรัพย์สินอะไรบ้าง?
หากคุณมีหลักประกันหรือทรัพย์สิน ก็อาจขอกู้สินเชื่อบางชนิดผ่านง่ายขึ้น และดอกเบี้ยค่อนข้างต่ำ เช่น หากคุณมีรถก็อาจขอกู้สินเชื่อ “จำนำทะเบียนรถ” หรือหากมีบ้านก็ลองกู้เป็นสินเชื่อ “บ้านแลกเงิน”
8 ทางเลือกในการกู้เงินก้อนด่วน
1. โรงรับจำนำ
- ดอกเบี้ย : 3% – 24% ต่อปี
- เหมาะกับใคร : คนที่มีทรัพย์สินมีค่า
โรงรับจำนำหรือโรงตึ๊งเป็นแหล่งเงินกู้ที่อยู่คู่กับคนไทยมาอย่างยาวนาน ถ้าเงินช็อตพี่โอกาสแนะนำโรงรับจำนำเป็นที่แรกๆเลยครับ เพราะเข้าถึงคนทั่วไปและคนค้าขายได้ง่าย แถมอนุมัติเร็วทันที และดอกเบี้ยถูกมากๆ
ปัจจุบันโรงรับจำนำสามารถพบเห็นได้ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็น สถานธนานุบาล, สถานธนานุเคราะห์ และโรงรับจํานําเอกชน สำหรับเงินก้อนจะกู้ได้ตั้งแต่ หลักร้อยถึงหลักแสน โดยดอกเบี้ยจะแบ่งเป็นช่วง ขึ้นอยู่กับราคาประเมินสินทรัพย์
ทรัพย์สินที่เป็นที่คนนิยมนำมาจำนำเวลาต้องการเงินก้อนด่วนก็มักจะมี นาฬิกาหรู ของแบรนด์เนม เครื่องดนตรี เครื่องมือช่าง ทองคำแบบต่างๆ อัญมณี ไปจนถึงพระเครื่อง
2. สินเชื่อส่วนบุคคล
- ดอกเบี้ย : ไม่เกิน 25% ต่อปี
- เหมาะกับใคร : คนที่ไม่มีหลักค้ำประกัน
สินเชื่อส่วนบุคคล เป็นสินเชื่อที่จะอนุมัติให้กับผู้กู้ที่มีรายได้มั่นคงและมีประวัติดี เช่น พนักงานประจำ แต่อาจไม่ตอบโจทย์สำหรับลูกค้าที่ไม่ได้มีรายได้ประจำเช่น ฟรีแลนซ์ พ่อค้าแม่ค้า
โดยดอกเบี้ยจะมีตั้งแต่หลักหน่วยถึง สูงสุดจะไม่เกิน 25% ต่อปี ซึ่งดอกเบี้ยและวงเงินที่แต่ละคนได้ จะขึ้นอยู่กับการพิจารณาสินเชื่อของสถาบันการเงินครับผม
3. สินเชื่อบ้านแลกเงิน
- ดอกเบี้ย : 4.29 – 9.00% ต่อปี
- เหมาะกับใคร : คนมีบ้าน, ต้องการวงเงินสูง
สำหรับคนที่มีบ้านและต้องการวงเงินสูง สินเชื่อบ้านแลกเงิน ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเลยครับ เพราะไม่จำกัดจุดประสงค์ในการกู้ ข้อดีของสินเชื่อรูปแบบนี้คือ ดอกเบี้ยค่อนข้างถูก
รวมถึงสินเชื่อบ้านแลกเงินมีดอกเบี้ยแบบ ลดต้นลดดอก วงเงินกู้ค่อนข้างสูง บางที่อาจถึง 95% ของราคาประเมิน โดยสามารถเลือกวงเงินได้ทั้งแบบ long term (10-30 ปี) เหมือนสินเชื่อบ้าน หรือจะเลือกแบบวงเงิน O/D ไว้ก็ได้ครับ
ส่วนหลักประกันสามารถใช้เป็นอสังหาริมทรัพย์ได้แทบทุกชนิดเลยครับ ตั้งแต่ คอนโด บ้าน ทาวน์เฮ้าส์ หรือที่ดินเปล่าๆ ซึ่งแต่ละแบบอาจมีวงเงินหรือดอกเบี้ยต่างกันเล็กน้อย
4. รีไฟแนนซ์แล้วกู้เพิ่ม
- ดอกเบี้ย : ขึ้นอยู่กับโปรโมชั่น
- เหมาะกับใคร : คนผ่อนบ้าน, ต้องการลดดอกเบี้ย
ปกติแล้วเวลารีไฟแนนซ์บ้านแล้วธนาคารมักจะถามว่าต้องการกู้เพิ่มหรือเปล่า เช่น ราคาประเมินบ้าน 3 ล้าน หนี้เหลือ 2 ล้าน ส่วนใหญ่ธนาคารจะให้กู้ได้ 90% ของวงเงิน ซึ่งแปลว่าจะสามารถกู้เพิ่มได้อีก 700,000 บาท
โดยดอกเบี้ยวงเงินกู้เพิ่มจะมากกว่าดอกเบี้ยบ้านเล็กน้อย ข้อดีของการกู้แบบนี้คือ นอกจากจะได้วงเงินกู้เพิ่มแล้ว ยังทำให้ประหยัดดอกเบี้ยบ้านอีกด้วย
สำหรับใครที่กำลังผ่อนบ้านอยู่ การรีไฟแนนซ์บ้านทุกๆ 3 ปีจะช่วยให้คุณผ่อนบ้านหมดไวขึ้น แถมประหยัดดอกเบี้ยได้ถึงหลักแสน “สมัครโปรโมชั่นรีไฟแนนซ์” ผ่าน FINSTREET ได้ฟรีๆเลยครับ
5. สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ
- ดอกเบี้ย : 3.88 – 18% ต่อปี (ไม่เกิน 24%)
- เหมาะกับใคร : คนมีรถ
สำหรับคนมีรถทุกชนิดไม่ว่าจะเป็น รถเก๋ง รถกระบะ รถบรรทุก หรือรถไถ ที่ผ่อนหมดแล้ว พี่โอกาสแนะนำเงินด่วนที่เป็น สินเชื่อทะเบียนรถ เลยครับ อนุมัติง่าย ดอกเบี้ยไม่แพงมาก เพราะใช้รถเป็นหลักประกัน
ซึ่งแม้ว่าแต่ก่อนจะเน้นไปที่สำหรับคนมีรถที่ปลอดภาระ แต่ในปัจจุบันผู้ให้บริการสินเชื่อหลายเจ้าก็เปิดโอกาสให้ผู้ที่ยังผ่อนไม่หมดสามารถกู้ได้เช่นกัน
ข้อดีของสินเชื่อชนิดนี้คือ รถยังอยู่กับเรา สามารถใช้ต่อยอดทำมาหากินได้ และอัตราดอกเบี้ยจะเท่าเดิมตลอดอายุสัญญา แถมยังมีให้เลือกผ่อนจ่าย ทั้งแบบดอกเบี้ยลดต้น ลดดอก และดอกเบี้ยคงที่ตามที่สะดวกเลยครับ
6. กู้จากประกันชีวิตตัวเอง
- ดอกเบี้ย : 6-8% ต่อปี
- เหมาะกับใคร : คนที่มีประกันชีวิต
เชื่อว่าหลายคนที่มีประกันอาจยังไม่เคยรู้ว่า ยามฉุกเฉินเราสามารถ “กู้จากกรมธรรม์ตัวเอง” ได้ด้วย เป็นเงินก้อนด่วนที่กู้ผ่านได้ชัวร์ๆ เพราะเป็นกรมธรรม์ตัวเอง แถมดอกเบี้ยยังถูกมากๆเลยครับ
ส่วนประเภทของประกันที่สามารถขอกู้จากกรมธรรม์ได้ ได้แก่ ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์, แบบตลอดชีพ และแบบบำนาญ ซึ่งในการกู้เงินจากกรมธรรม์ ส่วนใหญ่จะสามารถทำได้เมื่อจ่ายเบี้ยมาแล้วอย่างน้อย 2 ปี
และในระหว่างที่กู้ยืมจะได้รับความคุ้มครองเท่าเดิมเลยครับ สำหรับวงเงินกู้ยืมจะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของกรมธรรม์ แต่โดยทั่วๆไปจะสามารถขอกู้ได้สูงสุดไม่เกิน 90% ของมูลค่าเวนคืนกรมธรรม์ ใครที่สนใจลองสอบถามตัวแทนประกันดูนะครับ
7. พิโกไฟแนนซ์
- ดอกเบี้ย : 28 – 36% ต่อปี
- เหมาะกับใคร : คนจังหวัดเดียวกับที่ตั้งสำนักงานพิโกไฟแนนซ์
พิโกไฟแนนซ์ เป็นสินเชื่อส่วนบุคคลอีกประเภทที่เป็นสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัด ซึ่งอยู่ในความดูแลของกระทรวงการคลัง โดยเหมาะกับคนที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดเดียวกันกับที่สำนักงานพิโกไฟแนนซ์ตั้งอยู่
ผู้กู้สามารถกู้ยืมเงินก้อนด่วนจะมีหลักทรัพย์ค้ำประกันหรือไม่มีก็ได้ โดยสามารถกู้ได้ไม่เกิน 50,000 บาท หากกู้กับผู้ประกอบการที่มีใบอนุญาต “พิโกไฟแนนซ์” และสามารถกู้ได้เกิน 50,000 บาท แต่ไม่เกิน 100,000 บาท หากกู้กับผู้ประกอบการที่มีใบอนุญาต “พิโกพลัส”
8. นาโนไฟแนนซ์
สำหรับอาชีพอิสระ พนักงานรายวัน หรือพ่อค้าแม่ค้า ที่กำลังเจอปัญหาเงินช็อต หากรายได้ไม่แน่นอน ไม่มีหลักประกัน หรือไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่ออื่นๆได้ อย่าเพิ่งหนี้ไปนอกระบบนะครับ “นาโนไฟแนนซ์” ช่วยคุณได้ !
นาโนไฟแนนซ์ เป็นสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพ ภายใต้การกำกับของรัฐ เหมาะกับผู้ที่ทำอาชีพอิสระ หรือรายได้ไม่แน่นอน โดยจุดประสงค์หลักคือ เพื่อลดหนี้นอกระบบ
สามารถกู้ได้ไม่เกิน 100,000 บาท และอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 36% ต่อปี ซึ่งถือว่าค่อนข้างสูง แต่น้อยกว่าเงินนอกระบบมากๆ และที่สำคัญ ไม่ต้องมีใบรับรองเงินเดือน ไม่มีรายได้ขั้นต่ำ หรือหลักทรัพย์ค้ำประกัน
เงินช็อต…ห้ามกู้เงินนอกระบบ !
แม้จะเงินช็อตแค่ไหน แต่ก็ห้ามกู้เงินด่วนนอกระบบเด็ดขาด เพราะคุณจะไม่สามารถออกจากวังวนแห่งหนี้ได้ สมัยนี้พบบ่อยมากแม้แต่ในโซเชียลมีเดีย ซึ่งมักจะใช้คำว่า “ร้อยละต่อวัน” หรือ “ร้อยละต่อเดือน”
อย่าถูกหลอกด้วยตัวเลขนะครับ เงินกู้นอกระบบโดยทั่วไปดอกเบี้ยจะอยู่ที่ ร้อยละ 10-20 ต่อเดือน ซึ่งจริงๆแล้วมันคือ ร้อยละ 120 – 240 ต่อปีครับ คิดโดยนำดอกเบี้ยไปคูณด้วย 12 (จำนวนเดือน)
หรือถ้าเป็นแบบ ดอกลอยรายวัน ที่จ่ายดอกเบี้ย ร้อยละ 2-4 ต่อวันจนกว่าจะคืนเงินต้นทั้งก้อน จริงๆแล้วมันคือ ร้อยละ 720-1,440 ต่อปีเลยครับ สูงกว่าสินเชื่อแบบอื่นๆเป็นร้อยเท่า !
สรุป
การเป็นหนี้ไม่ใช่เรื่องผิดครับ เพราะบางครั้งเงินก้อนด่วนอาจช่วยให้คุณมีสภาพคล่องในยามเงินช็อต และสร้างโอกาสทางธุรกิจได้ ปัจจุบันสินเชื่อแต่ละแบบก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป ควรวางแผนการเงินให้รอบคอบ และเลือกให้เหมาะสมกับตัวเองนะครับ