เชื่อว่าคนที่ทำอาชีพอิสระ ไม่ว่าจะเป็นฟรีแลนซ์ พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ หรือรับจ้างทั่วไปหลายๆคน คงจะเคยเจอกับปัญหาการสมัครบัตรเครดิตไม่ผ่าน เพราะไม่มีสลิปเงินเดือนใช่ไหมครับ ?
ซึ่งการไม่มีบัตรเครดิตนอกจากจะทำให้เสียโอกาสในการได้รับสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับ เช่น การผ่อนสินค้า 0% , การสะสมแต้มแลกส่วนลด หรือการรับบริการอื่นๆฟรี
แถมยังทำให้เสียโอกาสในการสร้างประวัติในข้อมูลเครดิตแห่งชาติหรือเครดิตบูโร ที่สถาบันการเงินต่างๆมักจะใช้เป็นปัจจัยหนึ่งในการพิจารณาปล่อยสินเชื่อต่างๆให้กับคุณในอนาคตอีกด้วย
วันนี้เราเลยมีวิธีการสมัครบัตรเครดิตให้ผ่านง่ายสำหรับอาชีพอิสระ ไม่มีรายได้ประจำ มาฝากกันครับ โดยวิธีที่เรานำมาแนะนำกัน มี 2 วิธี ได้แก่ :
โดยทั้ง 2 วิธีมีรายละเอียดอะไรที่คุณควรต้องรู้บ้าง ติดตามกันได้ในบทความนี้เลยครับ !
ไม่มีรายได้ประจำ สมัครบัตรเครดิตไม่ผ่าน ทำอย่างไรดี ?
วิธีที่ 1 “ทำ Statement ให้สวยงาม”
โดยในทุกๆเดือนที่คุณได้รับเงินมา ไม่ว่าจะเป็นรับเงินสด หรือเข้าบัญชีก็ตาม เราแนะนำให้คุณหาบัญชีว่างๆสักบัญชี แล้วทยอยนำเงินที่ได้รับมา แบ่งฝากเข้าบัญชีทีอย่างสม่ำเสมอ
ตัวอย่างเช่น หากทำงานฟรีแลนซ์ได้รับเงินหลักหมื่น หลักแสน แต่เงินไม่เข้าทุกเดือน ให้คุณแบ่งเงินออกมาเดือน เดือนละประมาณ 15,000 บ. (อย่างน้อย) แล้วทยอยโอนเข้าบัญชีทุกเดือน
ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆประมาณ 3 – 6 เดือน Statement เงินเข้าบัญชีของคุณก็จะสวยงามมากยิ่งขึ้นราวกับพนักงานที่มีรายได้ประจำเลยครับ
โดยทริคการทำ Statement ให้สวยงาม นอกจากเหล่าคนอาชีพอิสระ ไม่มีรายได้ประจำ จะสามารถนำไปใช้เพื่อสมัครบัตรเครดิตได้แล้ว ใครที่อยากกู้ซื้อบ้าน กู้ซื้อรถ ก็ทำวิธีนี้ได้เช่นกันครับ
วิธีที่ 2 “สมัครบัตรเครดิตแบบวางเงินค้ำประกัน”
ซึ่งขั้นตอนก็ง่ายๆ เพียงแค่เรานำเงินไปฝากค้ำประกันให้กับธนาคารเอาไว้ตามยอดขั้นต่ำที่ธนาคารกำหนด จากนั้นก็รอรับบัตรเครดิตจากธนาคารมาใช้ โดยในระหว่างนี้คุณก็ใช้งานบัตรเครดิต และจ่ายยอดทุกรอบบิลตามปกติได้เลยครับ
แต่หากในระหว่างนี้คุณเกิดไม่จ่ายค่าบัตรเครดิต ธนาคารก็จะหักยอดจากเงินที่คุณฝากค้ำประกันไว้นั่นเอง
แล้วการสมัครบัตรเครดิตแบบวางเงินค้ำประกันต้องรู้อะไรอีกบ้าง…มาดู 3 เรื่องที่ต้องรู้ ก่อนสมัครบัตรเครดิตแบบวางเงินค้ำประกันกันต่อเลยครับ
3 เรื่องที่ต้องรู้ ก่อนสมัครบัตรเครดิต แบบวางเงินค้ำประกัน
3 เรื่องที่คุณต้องรู้ก่อนสมัครบัตรเครดิต แบบวางเงินค้ำประกัน คือ
1. วงเงินอนุมัติขึ้นอยู่กับเงินที่ฝากค้ำประกัน
ซึ่งธนาคารจะอนุมัติเงินให้ตั้งแต่ 90%- 100% ของเงินที่วางค้ำประกันครับ ดังนั้นหากอยากได้วงเงินบัตรเยอะๆ ก็อาจต้องยอมแลกด้วยการฝากเงินกับธนาคาร
2. ไม่สามารถถอนเงินที่ฝากค้ำประกันไว้ออกมาได้ จนกว่าจะยกเลิกใช้งานบัตรเครดิต
โดยเมื่อคุณต้องการยกเลิกบัตรเครดิต ธนาคารก็จะคืนเงินที่คุณฝากค้ำประกันเอาไว้ทั้งหมดนั่นเองครับ ดังนั้นเงินที่ทิ้งไว้ในการค้ำประกันจะต้องเป็นเงินเย็นที่แม้จะมีเหตุจำเป็นก็ไม่ต้องนำเงินส่วนนี้มาใช้นะครับ
3. หากไม่ชำระยอดบัตรเครดิต เมื่อถึงรอบบิล ธนาคารจะหักเงินที่คุณฝากค้ำเอาไว้
ปกติแล้วเมื่อคุณใช้จ่าย ธนาคารก็จะไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับเงินที่คุณฝากค้ำประกันไว้ แต่หากในกรณีที่คุณขาดจ่ายหลายรอบบิล ธนาคารก็จะทำการหักเงินก้อนนั้นเพื่อชำระหนี้ครับ
สมัครบัตรเครดิตใบไหน ต้องฝากเงินค้ำประกันเท่าไหร่ ?
เรายกตัวอย่างบัตรเครดิตยอดฮิตจาก 4 เจ้าดังมาฝากกันแล้วครับ
ส่วนใครที่ทำอาชีพอิสระ ไม่มีรายได้ประจำ อยากรู้วิธีขอสินเชื่อ หาแหล่งเงินทุนเพิ่มเติม ดูได้ที่คลิปนี้เลย
ซึ่งจากประสบการณ์ส่วนตัวของพี่โอกาส บัตรเครดิตเจ้าที่ค่อนข้างสมัครง่ายที่สุดคือ บัตรเครดิต KTC หรือบัตรซิตี้ครับ
สนใจสมัครบัตรเครดิตซิตี้แบงก์ : สมัครเลย !
สนใจสมัครบัตรเครดิตเคทีซี : สมัครเลย !