กลโกงการเงินก็เหมือน “เหล้าเก่าในขวดใหม่” ที่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ยุคกี่สมัย รูปแบบการนำเสนอจะเปลี่ยนไปยังไง หลักการก็ยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
หากคุณมีคนเดินมาบอกว่าจะ ทำให้คุณมีเงินเป็นกอบเป็นกำ มี passive income ในชั่วข้ามคืน อยากให้รู้เลยว่า “ไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ” เพราะคุณอาจกำลังเจอกับกลโกงเหล่านี้ !
1.Advance fee – จ่ายก่อน เชือดทีหลัง
ทำงานที่บ้านอยู่ดีๆ มีอีเมลแปลกๆส่งมาบอกคุณว่า “ยินดีด้วยคุณถูกรางวัลใหญ่ 1 ล้าน” รบกวนส่งเลขบัญชีมา และโอนค่าธรรมเนียมมาที่บัญชีนี้โดนต้มแน่ๆครับ เค้าไม่มีทางโอนมาหรอก ลองตั้งสติคิดดีๆว่า เค้าให้เงินเรา แล้วเค้าได้อะไร
อีกเคสที่เจอบ่อยตามกลุ่มเฟสกลุ่มไลน์ช่วงนี้ ก็จะมีพวก “เงินกู้ดอกเบี้ยถูก” ถูกจนน่าแปลกใจ ยังไม่เคยเจอหน้าเจอตา มาให้เรากู้ได้ไง พอบอกว่าให้จ่ายค่าธรรมเนียมก่อนเท่านั้นแหละ อ๋อออ
2.Pump & Dump – หลอกเม่าคึก แล้วขายทิ้ง
หากใครเคยดูหนังเรื่อง Wolf of Wall Street คงน่าจะรู้จักกลโกงรูปแบบนี้ เพราะในเรื่องจะมีเทคนิคหนึ่งที่หลอกให้คนซื้อ เศษหุ้นบริษัทเล็กๆ (Penny Stocks) ที่ไม่มีค่า
โดยบอกว่ามีวงในและเมื่อหุ้นราคาดันตัวสูงขึ้นรัวๆ (Pump) ก็ทำการเทขายอย่างไร้เยื่อใย (Dump)
ปัจจุบันกลโกงนี้ถูกนำไปใช้กับสินทรัพย์หลายๆแบบ เช่น คริปโตบางตัว หรืออสังหาต่างๆจึงเป็นที่มาของคำว่า การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควร “ศึกษาข้อมูลๆๆ” ก่อนตัดสินใจลงทุน
3.Ponzi – วนจ่ายกำไร ด้วยเงินเราเอง
ปอนซีเป็นกลโกง “แชร์ลูกโซ่” รูปแบบหนึ่ง ที่หลอกเอาเงินนักลงทุนมาหมุน แล้วนำเงินนักลงทุนคนต่อมา หรือเอาเงินที่เราฝากไปนั่นแหละ มาจ่ายเป็นผลตอบแทน
ให้หลักการมันแค่นี้จริงๆครับ แต่รูปแบบมันอาจประยุกต์ไปเป็น AI Trading, Defi, forex บางเจ้า (เน้นว่าบางเจ้า) หรืออาจจะเป็นการลงทุน ที่ดูซับซ้อนล้ำโลกจนเราไม่เข้าใจ แต่ก็เออออไปกับเขา ซึ่งก็มักจะเปลี่ยนไปตามเทรนในยุคสมัยนั้น
ถ้าเป็นสมัยก่อนที่ดังๆก็ “แชร์แม่ชม้อย” อันนี้หลอกให้ไปลงทุนในรถขนน้ำมัน จนเสียหายไปกว่า 4,500 ล้านบาท
4.Pyramid – ชวนดาวน์ไลน์ แม่ข่ายหนี
หลายคนชอบสับสนกลโกงพิรามิดกับปอนซี เพราะเรียกว่า แชร์ลูกโซ่เหมือนกัน จริงๆแล้วมันต่างกันครับ กลโกงพิรามิด “ชวนคนแล้วได้เงิน”
คุ้นๆมั้ยครับ คุณอาจคิดว่า เหมือนกับธุรกิจขายตรง หรือ MLM แต่จริงๆแล้วธุรกิจขายตรง เค้าถูกกฎหมายนะครับ เพราะได้เงินจากการขายมากกว่าค่าธรรมเนียมแรกเข้า
สิ่งที่ต่างคือ กลโกงพิรามิดไม่มีสินค้าอยู่จริง หรือทำเป็นขายไปงั้นๆ สินค้าแพงกว่าคุณภาพ เน้นที่ค่าธรรมเนียมแรกเข้า
รวมถึงที่พบบ่อยก็จะเป็นแชร์ที่พัก แชร์ท่องเที่ยว ภัตตาคารหรู ส่วนถ้าในโซเชียลก็จะเป็น กลุ่มไลน์ออมเงินบ้านต่างๆ ที่เป็นข่าว ถ้ามีชวนคนก็ระวังให้ดี ท้าวแชร์อาจหอบเงินหนี ถ้าได้เงินก้อนเยอะพอ
5.Coaching – ยิ่งเรียน ยิ่งจน
จ่ายเงินค่าคอร์สสัมมนาแพงเป็นหมื่น เพื่อไปเรียนวิธีหาเงินง่ายๆ แต่พอไปเรียนเนื้อหากลับบางเบา นำไปใช้จริงไม่ได้ แถมตอนจบยังกั๊กไว้อีกว่า ยังสอนไม่หมด ต้องซื้อคอร์สต่อแทนที่จะหาเงินได้ เรียนไปเรียนมาเงินหายหมด !
คอร์สพวกนี้อาจมาในรูปแบบการตลาดออนไลน์ นิสัยเศรษฐี นายหน้าอสังหา และวิธีได้เงินไวอื่นๆที่สอนแค่ผิวเผิน
จริงๆแล้วความรู้ฟรีๆ คนที่ทำ coaching ดีๆ หรือคอร์สสอนสร้างรายได้ดีๆก็มีเยอะมาก แต่ถ้าบางคอร์สคุณเรียนไปแล้ว ยิ่งเสียเงิน ไม่ได้ความรู้ แถมชีวิตแย่ลง แบบนี้ก็ไม่เอา…
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ และสร้างภูมิคุ้มกันด้านการเงินให้เพื่อนๆนะครับ
อ้างอิง : money explained, ลงทุนแมน, the people, wealthlab