บัตรเครดิตแล้วสบายขึ้น จริงๆ ประโยคนี้ก็ไม่ได้ผิดอะไร หากเพื่อนๆ ใช้จ่ายกันอย่างมีสติและมีวินัย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าหนี้บัตรเครดิตเป็นอีกปัญหาใหญ่ของชาวมนุษย์เงินเดือน เพราะเคยชินกับการรูดไปก่อน ค่อยผ่อนจ่ายทีหลัง จนสุดท้ายก็ผ่อนไม่ไหว เพราะดอกเบี้ยสูง ค่าธรรมเนียมก็สูง ถึงแม้จะมีเงินพอจ่ายขั้นต่ำ แต่ก็ต้องจ่ายไปเรื่อยๆ ไม่จบไม่สิ้น แถมทั้งชีวิตนี้ก็ไม่ได้มีแค่ค่าใช้จ่ายเดียว ยังมีทั้งค่าบ้าน ค่ารถ ค่าน้ำ ค่าไฟ และอีกมากมาย สำหรับใครที่กำลังจมกับปัญหานี้ ไม่รู้จะหาเงินมาปิดหนี้ยังไง วันนี้พี่โอกาสจะมาแชร์วิธีลดภาระด้วยการ “รวมหนี้บัตรเครดิต” ดอกเบี้ยน้อยลง เคลียร์ยอดได้เร็วขึ้น ขั้นตอนจะมีอะไรบ้าง ไปดูกัน!
รวมหนี้บัตรเครดิต คืออะไร ปลดหนี้ได้เร็วขึ้นจริงไหม ?
การรวมหนี้บัตรเครดิต คือ การนำหนี้ที่มีทั้งหมดจากบัตรเครดิตแต่ละใบ มารวมให้เป็นก้อนเดียวกัน เพื่อให้สามารถจัดการหนี้ได้สะดวกมากขึ้น และยังสามารถเลือกระยะเวลาผ่อนได้นาน ตั้งแต่ 1 ปีไปจนถึง 6 ปีเลยทีเดียว ทำให้เราสามารถเคลียร์ยอดบัตรเครดิตได้เร็วขึ้นนั่นเอง ใครที่เป็นรูดบัตรเครดิตที่ต่างประเทศบ่อยๆ ก็ควรรู้เทคนิคนี้ไว้นะครับ โดยวิธีการรวมหนี้บัตรเครดิตจะมี 2 รูปแบบด้วยกัน ได้แก่
- รวมหนี้บัตรเครดิตกับสินเชื่อส่วนบุคคล : นำหนี้บัตรเครดิตมาเป็นสินเชื่อส่วนบุคคลในธนาคารเดียวกัน ซึ่งจะมีสินเชื่อและธนาคารหลากหลายเจ้าให้เลือก ดอกเบี้ยและวงเงินก็จะแตกต่างกันไป นอกจากนี้ บางเจ้ายังไม่ต้องใช้หลักทรัพย์หรือมีคนค้ำประกันด้วย
- รวมหนี้บัตรเครดิตกับสินเชื่อบ้าน : นำหนี้บัตรเครดิตกับหนี้บ้านมารวมกัน ในธนาคารเดียวกัน ซึ่งจะเป็นธนาคารเดิมของหนี้บ้านหรือหนี้บัตรเครดิตแล้วย้ายให้มาอยู่ด้วยกัน หรือรีไฟแนนซ์กับธนาคารใหม่ไปเลยก็ได้ครับ (ปัจจุบันธนาคารแห่งประเทศไทยได้สนับสนุนให้เราสามารถรวมหนี้แบบข้ามธนาคารได้แล้วครับ)
รวมหนี้บัตรเครดิต มีข้อดีอะไรบ้าง
- ดอกเบี้ยลดลง : จากดอกเบี้ยบัตรเครดิตที่แสนแพง เมื่อเปลี่ยนเป็นสินเชื่อส่วนบุคคล หรือรวมเข้ากับสินเชื่อบ้านแล้ว เราสามารถเลือกสินเชื่อที่มีอัตราดอกเบี้ยถูกลงกว่าเดิมได้ เราก็จะผ่อนจ่ายดอกเบี้ยน้อยลงนั่นเอง
- หนี้บัตรเครดิตหมดเร็วขึ้น : เมื่อดอกเบี้ยลดลง เราก็สามารถนำเงินที่เหลือไปผ่อนจ่ายในส่วนของเงินต้นได้มากขึ้น เมื่อชำระเงินต้นจนหมด ก็ถือเป็นการปิดหนี้ครับ
- ยืดระยะเวลาผ่อนจ่ายได้นานขึ้น : อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า การขอสินเชื่อใหม่สามารถผ่อนได้นานสูงสุดถึง 6 ปี ก็พอทำให้เราโล่งใจไปได้หน่อยนึง (แต่พี่โอกาสแนะนำให้รีบปิดหนี้ดีกว่านะครับ) นอกจากนี้ ยังสามารถเลือกวงเงิน และยอดผ่อนชำระแต่ละงวดที่เราจ่ายไหวได้ด้วยครับ
- ไม่เสียประวัติเครดิต : ตามที่เพื่อนๆ หลายคนทราบกันดีว่า ถ้าหากเราชำระหนี้ไม่ตรงเวลา และค้างหนี้เป็นเวลานาน ก็อาจจะติดเครดิตบูโรได้ ดังนั้น ก่อนที่จะกลายเป็นหนี้สิน เราก็สามารถรวมหนี้ให้เป็นก้อนเดียวกันก่อนเสียประวัติการเงินครับ
- มีเงื่อนไขที่หลากหลายขึ้น : สินเชื่อบางเจ้าเงินเดือนขั้นต่ำที่ 15,000 บาทก็สามารถยื่นกู้ได้แล้วครับ หรือสำหรับใครมีอายุงานไม่ถึง 1 ปี แต่ครบ 6 เดือน เงื่อนไขของบางธนาคารก็อนุญาตให้เราขอกู้ได้เช่นกัน
ผ่อนบัตรเครดิตมานาน อยากรวมหนี้เป็นก้อนเดียว ต้องทำยังไง
หลังจากทราบข้อดีของการรวมหนี้ไปแล้ว เพื่อนๆ คงเริ่มสนใจอยากรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตกันแล้วใช่ไหมครับ ซึ่งขั้นตอนการรวมหนี้บัตรเครดิตให้อยู่ในธนาคารเดียวนั้นไม่ยุ่งยากเลย พี่โอกาสสรุปวิธีมาให้ทุกคนแล้วครับ
ลิสต์หนี้บัตรเครดิตทั้งหมดที่มีออกมา
เริ่มจากลิสต์บัตรเครดิตที่เรามีทั้งหมดออกมาว่าแต่ละใบนั้นมียอดหนี้เท่าไหร่ ใบไหนที่ต้องผ่อนอีกนาน ใบไหนใกล้จะหมดแล้ว จะได้ทราบจำนวนเงินที่ต้องผ่อน เพื่อประเมินวงเงินสินเชื่อส่วนบุคคลครับ เช่น หนี้บัตรเครดิตที่เราคงเหลืออยู่นั้นคือ 100,000 บาท เราก็ต้องกู้สินเชื่อที่มีวงเงินอย่างน้อย 1 แสนบาทนั่นเองครับ
ประเมินค่างวด พร้อมดอกเบี้ย
ลิสต์ยอดหนี้เสร็จแล้ว ทีนี้ก็มาดูครับว่าเราสามารถผ่อนจ่ายไหวที่กี่บาทต่อเดือน โดยดูรายจ่ายที่จำเป็นในแต่ละเดือน ทั้งค่ารถ ค่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าครองชีพอื่นๆ หักลบกับเงินเดือนหรือรายได้ทั้งหมด ลองดูว่าเหลือเงินเท่าไหร่ ลองจัดสรรและแบ่งไปจ่ายค่างวดครับ (พี่โอกาสแนะนำว่าควรเก็บเป็นเงินออมไว้ด้วยนะครับ ไม่ควรนำเงินที่เหลือไปผ่อนทั้งหมด) ซึ่งถ้าผ่อนจ่ายได้เยอะ ก็ยิ่งเคลียร์ยอดหนี้บัตรเครดิตได้เร็วครับ
หาสินเชื่อที่สามารถรวมหนี้บัตรเครดิตได้
ขั้นตอนต่อมาก็คือ การเปรียบเทียบสินเชื่อบุคคลของแต่ละธนาคาร ว่าเจ้าไหนวงเงินเยอะ ผ่อนจ่ายได้นาน ดอกเบี้ยถูก รวมถึงมีเงื่อนไขที่ตรงใจเรามากที่สุด (ซึ่งในปัจจุบันมีตัวเลือกเยอะมาก) หรือใครที่มีหนี้บ้านอยู่แล้วก็ให้นำหนี้ก้อนนี้ไปรวมด้วยครับ เพราะจะได้อัตราดอกเบี้ยที่ถูกกว่าสินเชื่อส่วนบุคคลครับ
อยากรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต ขอสินเชื่อธนาคารไหนดี 2566
ปัจจุบันนี้ธนาคารก็ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับคนที่อยากรีไฟแนนซ์บัตรเครดิตด้วยการกู้สินเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งถือเป็นตัวเลือกที่ดีมากๆ เพราะช่วยให้สามารถผ่อนชำระในอัตราดอกเบี้ยที่ถูกลง วงเงินสูง และมีระยะเวลาผ่อนที่นานขึ้น พี่โอกาสก็คัดสินเชื่อมาให้แล้วทั้ง 7 เจ้า จะมีสินเชื่อรวมหนี้ธนาคารไหนบ้าง มาดูกันเลย
สินเชื่อบุคคล CardX Speedy Loan
- ธนาคารเจ้าของสินเชื่อ : ธนาคารไทยพาณิชย์
- ระยะเวลาผ่อนสูงสุด : 6 ปี
- วงเงินสูงสุดที่ให้กู้ : 5 ล้านบาท หรือไม่เกิน 5 เท่าของรายได้
- ดอกเบี้ยสูงสุด : ไม่เกิน 25%
- อายุผู้สมัคร : 20 – 60 ปี
- รายได้ขั้นต่ำ : 15,000 บาท / เดือน
สินเชื่อบุคคลเพอร์ซันนัลแคช
- ธนาคารเจ้าของสินเชื่อ : ธนาคาร CIMB
- ระยะเวลาผ่อนสูงสุด : 6 ปี
- วงเงินสูงสุดที่ให้กู้ : 2 ล้านบาท หรือไม่เกิน 5 เท่าของรายได้
- ดอกเบี้ยสูงสุด : ไม่เกิน 19.99%
- อายุผู้สมัคร : 21 – 59 ปี
- รายได้ขั้นต่ำ : 15,000 บาท / เดือน
- อายุงานขั้นต่ำ : 6 เดือน
สินเชื่อหมุนเวียนส่วนบุคคล
- ธนาคารเจ้าของสินเชื่อ : ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
- ระยะเวลาผ่อนสูงสุด : 5 ปี
- วงเงินสูงสุดที่ให้กู้ : 2 ล้านบาท หรือไม่เกิน 5 เท่าของรายได้
- ดอกเบี้ยสูงสุด : ไม่เกิน 25%
- อายุผู้สมัคร : 20 – 59 ปี
- รายได้ขั้นต่ำ : 20,000 บาท / เดือน
- อายุงานขั้นต่ำ : 1 ปีขึ้นไป
สินเชื่อ UOB iCASH
- ธนาคารเจ้าของสินเชื่อ : ธนาคารยูโอบี
- ระยะเวลาผ่อนสูงสุด : 5 ปี
- วงเงินสูงสุดที่ให้กู้ : 2 ล้านบาท หรือไม่เกิน 5 เท่าของรายได้
- ดอกเบี้ยสูงสุด : ไม่เกิน 24.99%
- รายได้ขั้นต่ำ : 15,000 บาท / เดือน
สินเชื่อส่วนบุคคล Happy Cash
- ธนาคารเจ้าของสินเชื่อ : ธนาคาร LH Bank
- ระยะเวลาผ่อนสูงสุด : 5 ปี
- วงเงินสูงสุดที่ให้กู้ : 1.5 ล้านบาท
- ดอกเบี้ยสูงสุด : ไม่เกิน 25%
- รายได้ขั้นต่ำ : 15,000 บาท / เดือน
สินเชื่อบัวหลวงสุขใจ
- ธนาคารเจ้าของสินเชื่อ : ธนาคากรุงเทพ
- ระยะเวลาผ่อนสูงสุด : 5 ปี
- วงเงินสูงสุดที่ให้กู้ : 1 ล้านบาท หรือไม่เกิน 5 เท่าของรายได้
- ดอกเบี้ยสูงสุด : ไม่เกิน 23%
- อายุผู้สมัคร : 20 – 59 ปี
- รายได้ขั้นต่ำ : 15,000 บาท / เดือน
- อายุงานขั้นต่ำ : 1 ปีขึ้นไป
สินเชื่ออเนกประสงค์ 5 Plus
- ธนาคารเจ้าของสินเชื่อ : ธนาคารกรุงไทย
- ระยะเวลาผ่อนสูงสุด : 5 ปี
- วงเงินสูงสุดที่ให้กู้ : 1 ล้านบาท หรือไม่เกิน 5 เท่าของรายได้
- ดอกเบี้ยสูงสุด : MRR + 7% ต่อปี
- อายุผู้สมัคร : ไม่เกิน 60 ปี
- รายได้ขั้นต่ำ : 30,000 บาท / เดือน
- อายุงานขั้นต่ำ : 1 ปีขึ้นไป
สรุป
ใครที่กำลังประสบปัญหาหนี้บัตรเครดิต อ่านบทความนี้แล้วคงเบาใจไปได้เยอะ อย่างไรก็ตาม แม้จะขอสินเชื่อรวมหนี้ได้แล้ว ก็ต้องมีวินัยในการผ่อนชำระอยู่เสมอนะครับ เพราะไม่งั้นเราก็คงต้องผ่อนจ่ายแบบนี้ไปเรื่อยๆ ไม่หลุดจากวงจรหนี้บัตรเครดิตอย่างแน่นอน สำหรับเพื่อนๆ ที่ยังไม่เคยมีบัตรเครดิตใบแรกก็อย่าลืมเช็กสภาพคล่องของตัวเอง และตัดสินใจให้รอบคอบก่อนสมัคร เพราะหนี้บัตรเครดิตมันน่ากลัวมากจริงๆ ครับ
ขอบคุณข้อมูลจาก Krungsri ครับ