หนึ่งค่าใช้จ่ายที่เป็นภาระหนักสุดของใครหลายๆ คน ก็คงหนีไม่พ้นค่าบ้าน ซึ่งเพื่อนๆ คงทราบกันดีว่า “โปะบ้าน” เป็นสิ่งที่คนที่ซื้อบ้านควรทำ เพราะจะช่วยให้คุณประหยัดไปได้เยอะมาก เนื่องจากดอกเบี้ยบ้านเป็นแบบลดต้นลดดอก และคำนวณดอกเบี้ยทุกวัน ยิ่งเงินต้นลดดอกเบี้ยก็ลดไปด้วย
ซึ่งการโปะบ้านด้วยเงินก้อนจะไปลดเงินต้นโดยตรง ซึ่งทำให้เงินต้นที่จะทำไปคิดดอกเบี้ยลดลง โดยสำหรับยอดหนี้ 2.5 ล้าน หากโปะไปแค่ 1 แสนจะประหยัดดอกเบี้ยได้ประมาณ 3 แสนเลยทีเดียว
แต่ช่วงนี้ก็มีเพื่อนๆถามเข้ามากันเยอะมาว่า ควรเลือกโปะแบบไหนดีระหว่าง โปะบ่อยๆ เป็นประจำทุกเดือน กับ โปะเป็นก้อนทีเดียว ตอนปลายปี วันนี้เราจะมาหาคำตอบกันครับ !
เปรียบเทียบ โปะบ้าน 3 แบบ
จากกรณีกู้บ้าน 2.5 ล้าน ผ่อนเดือนละ 14,000 บาท ดอกเบี้ย 5% ต่อปี (สมมุติว่าดอกเบี้ยคงที่ และดอกเบี้ย 3 ปีแรกเท่ากับปีที่ 4 จะได้เปรียบเทียบง่ายขึ้น) พี่โอกาสจะลองแบ่งคำนวณการโปะบ้านเป็น 3 แบบนะครับ
- แบบที่ 1 โปะทุกเดือน โดยสมมุติว่าโปะเพิ่มจากปกติเดือนละ 3,000 ทุกๆ เดือนไปจนกว่าจะผ่อนหมด ทำให้ถือว่าเราจะผ่อนเดือนละ 17,000 บาท (14,000+3,000)
- แบบที่ 2 โปะทุกๆปลายปี โดยจะโปะเงินก้อนไป 36,000 บาททุกๆ ปีไปจนกว่าจะผ่อนหมด ซึ่งจะเท่ากับเงิน 3,000 บาทคูณ 12 เดือน
- แบบที่ 3 โปะก้อนใหญ่ทุกๆ 5 ปี โดยจะโปะเงินก้อนไป 180,000 บาททุก 5 ปีไปจนผ่อนหมด ซึ่งจะเท่ากับเงิน 3,000 บาทคูณ 60 เดือน
ควรเลือก “โปะบ้าน” แบบไหนดี?
กรณีไม่โปะบ้านเลย ผ่อนไปเรื่อยๆ ตามตัวอย่างที่คำนวณ คุณจะต้องผ่อนประมาณ 329 งวด และจ่ายดอกเบี้ยไปทั้งหมด 2,101,302 บาท ซึ่งเกือบเท่าราคาบ้านเลยครับ
แต่ถ้าโปะบ้านบ่อยๆ คุณจะประหยัดไปได้ 6-7 แสนบาทเลย จากตารางจะเห็นว่าการ “โปะบ้านทุกๆเดือน” จะช่วยประหยัดดอกเบี้ยได้มากที่สุด
โดยจะประหยัดดอกเบี้ยกว่า โปะทุก 5 ปี ประมาณแสนกว่าบาท และผ่อนหมดเร็วกว่า 8 งวด รวมถึงประหยัดกว่า โปะทุกปี ในจำนวนเท่ากัน 2 หมื่นกว่าบาท และผ่อนหมดเร็วกว่าเล็กน้อย
ถ้าพูดง่ายๆโปะทุกเดือน กับโปะทุกปีก็ถือว่า ไม่ค่อยต่างกันมากครับในระยะยาว หากคุณต้องการสภาพคล่องในแต่ละเดือนก็อาจจะรอ “โบนัสปลายปี” แล้วโปะทีเดียวก็ได้ครับ
แต่ถ้าต้องการประหยัดจริงๆและอยาก ฝึกวินัยทางการเงิน ให้กับตัวเองก็ควรโปะทุกเดือน สรุปคือถ้าไม่ลำบาก ก็ควรโปะให้บ่อยครั้งที่สุด มีเท่าไหร่ก็โปะไว้ก่อนครับ
อยากลดดอกเบี้ยเพิ่ม ทำยังไงได้อีกบ้าง?
รีไฟแนนซ์ทุกๆ 3 ปี
วิธีนี้พูดง่ายๆก็คือ การย้ายธนาคาร เพื่อที่จะได้ดอกเบี้ยที่ถูกกว่าที่เก่า เพราะช่วง 3 ปีแรก ส่วนใหญ่ธนาคารจะให้ดอกเบี้ยต่ำ แต่หลังจากนั้นก็อาจจะเป็นดอกเบี้ยลอยตัวที่สูงขึ้น เราต้องรีไฟแนนซ์เพื่อให้ดอกเบี้ยต่ำอยู่ตลอด
สำหรับใครที่ผ่อนบ้านอยู่ หากต้องการรีไฟแนนซ์บ้านเพื่อลดดอกเบี้ยสามารถ รีไฟแนนซ์ ผ่าน FINSTREET ได้ฟรีๆเลยครับ
รีเทนชั่น
ส่วนใครที่มียอดหนี้เหลือไม่มาก และมีประวัติการชำระหนี้ที่ดี เครดิตดี จ่ายตรงเวลามาตลอด อาจลองขอ ต่อรองขอลดดอกเบี้ยกับธนาคารเดิม ได้ครับ ซึ่งวิธีนี้จะเรียกว่า รีเทนชั่น (retention) เป็นวิธีที่ทำให้สามารถลดดอกเบี้ยไปได้ถึง 1-2% เลยทีเดียว แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของธนาคารด้วยนะครับ
ชำระเงินผ่อน ให้เกินยอดทุกเดือน
เป็นวิธีที่ฟังดูบ้าบิ่นไปสักหน่อย แต่สามารถช่วยลดเงินต้นและดอกเบี้ยได้จริงๆ ครับ เพราะเงินที่เราจ่ายไปเกินนั้น จะถูกนำไปหักลบกับเงินต้นนั่นเอง แถมยังลดเวลาในการผ่อนชำระด้วย ใครที่มีความสามารถในการผ่อนชำระ หรือสามารถวางแผนการใช้จ่ายล่วงหน้า ก็ลองวิธีนี้ได้นะครับ
สรุป
ยิ่งโปะบ้านบ่อยๆเท่าไหร่ จะยิ่งประหยัดมากขึ้นเท่านั้น โดยถ้าเป็นจำนวนเงินเท่าๆกัน “การโปะทุกเดือน” จะประหยัดมากที่สุด แต่ในระยะยาว จะไม่ค่อยต่างกับโปะทุกปีมาก ถ้าใครได้รับโบนัสปลายปี หรือมีเงินก้อนปลายปี ก็อาจนำไปโปะบ้านเพิ่มได้