หลายคนที่กู้ซื้อบ้านคงน่าจะเจอปัญหาเดียวกันคือ ผ่อนบ้านมาตั้งนาน จ่ายดอกเบี้ยหมดไปเป็นแสน แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าเงินต้นจะลดเลย นานไปดอกเบี้ยก็ยิ่งสูง กว่าจะผ่อนบ้านในฝันจะหมด ก็ใช้เวลาไปเกือบครึ่งชีวิต ! ถ้าใช้วิธีลัดอย่างการ ‘ลดดอกเบี้ยบ้าน’ ก็จะช่วยประหยัดไปได้เยอะ
วันนี้พี่โอกาสจะพามาดูกันครับว่า ทำไมผ่อนเท่าไหร่ เงินต้นของเราถึงลดน้อยเหลือเกิน และจะมาแนะนำเคล็ดลับที่จะทำให้คุณลดดอกเบี้ยบ้าน และประหยัดเงินผ่อนได้หลักแสนอีกด้วย ถ้าพร้อมแล้วไปดูกันเลยยย
ผ่อนบ้านมาหลายปี แต่ทำไมเงินต้นถึงแทบไม่ลด ?
คำตอบ : เพราะดอกเบี้ยบ้านเป็นแบบลดต้นลดดอกครับ
สำหรับการผ่อนบ้านนั้น ค่างวดที่คุณผ่อนแต่ละเดือน จะถูกแบ่งเป็นสองส่วน ส่วนแรก คิดเป็นดอกเบี้ย อีกส่วนจะเอาไป หักเงินต้นที่เหลือ เลยทำให้ช่วงแรกๆดอกเบี้ยบ้านของคุณจะสูงมาก และเงินต้นแทบจะไม่ลดเลย นั่นเป็นเพราะดอกเบี้ยแต่ละงวด จะคูณตามเงินต้นที่เหลือ
เช่น จากภาพ งวดแรกเงินผ่อนเดือนละ 21,000 บาท จะถูกแบ่งเป็นดอกเบี้ยถึง 15,325 บาท และแบ่งไปหักเงินต้นแค่ 5,675 บาท แต่ในงวดหลังๆ เงินต้นจะถูกหักมากกว่าดอกเบี้ย เช่น งวดที่ 150 เงินผ่อนเดือนละ 21,000 บาทเท่ากัน แต่จะถูกแบ่งเป็นดอกเบี้ยแค่ 8,616 บาท และแบ่งไปหักเงินต้นถึง 12,384 บาท
ดังนั้นเพื่อที่จะทำให้ดอกเบี้ยลดลงได้ เราควรจะต้องทำให้เงินต้นของเราลดไปเยอะๆ หรือ หาวิธีลดเปอร์เซ็นต์ดอกเบี้ยลงครับ
ลดดอกเบี้ยบ้าน ผ่อนหมดไว ต้องทำยังไงบ้าง
การที่จะทำให้ลดดอกเบี้ยบ้านได้และผ่อนหมดไวขึ้นคือ ต้องทำให้เงินต้นลดไปเยอะๆ และหาวิธีลดดอกเบี้ยลง สำหรับในบทความนี้พี่โอกาสมี 3 วิธีที่จะทำให้เงินต้นลดลงมากขึ้น และ ดอกเบี้ยถูกลงมาฝากกันครับ
1. โปะเงินเพิ่ม
การโปะเงินเพิ่มเป็นวิธีหนึ่งที่ทำให้หนี้หมดเร็วขึ้น และลดดอกเบี้ยบ้านไปได้เยอะ เมื่อเงินต้นลดลง ดอกเบี้ยก็จะถูกลงได้ ซึ่งเราอาจจะค่อยๆทยอยโปะ หรือ โปะเป็นเงินก้อนใหญ่ก็ได้ (เช่น โบนัสออกก็เอามาโปะ)
2. รีเทนชั่น ลดดอกเบี้ยบ้าน
รีเทนชั่น (Retention) คือ การไปเจรจาต่อรองเพื่อขอลดดอกเบี้ยบ้านจากธนาคารเดิม ซึ่งหลักการจะคล้ายๆกับการย้ายค่ายมือถือครับ เช่น เวลาเราจะย้ายค่ายมือถือไปค่ายใหม่ ค่ายเดิมของเราขอมักจะโทรมาเสนอโปรโมชันใหม่ๆ เพื่อยื้อให้เราไม่ย้ายค่าย
การขอรีเทนชั่นกับธนาคารเดิมก็เหมือนกันครับ เมื่อเข้าไปขอลดดอกเบี้ยบ้านกับเค้า ถ้าประวัติการชำระหนี้หรือเครดิตเราดี ส่วนใหญ่ธนาคารก็มักจะลดดอกเบี้ยบ้านให้ ซึ่งวิธีนี้สามารถลดดอกเบี้ยไปได้ถึง 1-2% แถมไม่ต้องทำเรื่องเยอะ และไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย แต่ทั้งนี้ดอกเบี้ยและเงื่อนไข ก็ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของธนาคารนะครับ
3. รีไฟแนนซ์ ทุกๆ 3 ปี
การรีไฟแนนซ์คือ การนำเงินกู้ก้อนใหม่ ไปโปะเงินกู้ก้อนเก่า สำหรับวิธีนี้พูดง่ายๆก็คือ การย้ายธนาคาร เพื่อที่จะได้ดอกเบี้ยที่ถูกกว่าที่เก่านั่น ซึ่งเพื่อนๆ ก็ต้องเปรียบเทียบเงื่อนไขของธนาคารต่างๆ เพื่อให้ได้ดอกเบี้ยที่คุ้มค่ามากที่สุด แน่นอนว่าต้องเปรียบเทียบค่าธรรมเนียมด้วยนะครับ โดยสาเหตุต้องทำทุกๆ 3 ปี เพราะว่าช่วง 3 ปีแรก ส่วนใหญ่ธนาคารจะให้ดอกเบี้ยต่ำ แต่หลังจากนั้นก็อาจจะเป็นดอกเบี้ยลอยตัว (ดอกเบี้ย MRR) ซึ่งสูงขึ้น เลยเป็นเหตุผลที่เราต้องรีไฟแนนซ์เพื่อให้ดอกเบี้ยต่ำอยู่ตลอดครับ
แต่การรีไฟแนนซ์ก็มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น ค่าประกัน ค่าประเมินราคา ค่าอากรแสตมป์ ค่าเอกสาร ค่าใช้จ่ายจึงเป็นเรื่องที่เราควรจะพิจารณาด้วยก่อนที่จะทำการรีไฟแนนซ์
ถึงแม้จะมีค่าใช้จ่ายบ้าง แต่การรีไฟแนนซ์ทุกๆ 3 ปี ก็ถือว่าช่วยประหยัดเงินไปได้เยอะมาก อาจช่วยให้คุณประหยัดไปได้หลักแสน ถึงหลักล้าน ไปดูกันเลยว่า ถ้าคุณรีไฟแนนซ์ทุกๆ 3 ปี ยอดหนี้เท่านี้ จะช่วยลดดอกเบี้ยบ้านและประหยัดไปเท่าไหร่ ?
บางคนอาจจะมองว่าเสียเวลาไปธนาคาร ต้องทำเอกสารใหม่นู่นนี่ แต่จากตารางเพื่อนๆ ก็คงจะเห็นว่า การรีไฟแนนซ์ช่วยประหยัดดอกเบี้ยไปได้เยอะมาก สำหรับใครที่กำลังผ่อนบ้านอยู่ แล้วอยากเปรียบเทียบโปรโมชันรีไฟแนนซ์ ปรึกษาเราได้ที่ลิงก์นี้ คลิกเลย !!
สรุป
ลดดอกเบี้ยบ้านสามารถทำได้หลายวิธี ได้แก่ โปะบ้าน, ขอลดดอกเบี้ยธนาคารเดิม และรีไฟแนนซ์บ้าน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับว่าวิธีไหนคุ้มค่ากว่ากัน หรือตามความสะดวกของเพื่อนๆ เลยครับ ซึ่งแต่ละวิธีก็จะมีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันไป เพราะฉะนั้นการเปรียบเทียบวิธีการลดดอกเบี้ยบ้านจึงสำคัญมาก ไม่ว่าจะเป็น เงื่อนไขต่างๆ หรือ ค่าธรรมเนียมในการทำธุรกิจ อย่างน้อยก็จะช่วยเราประหยัดไปได้เยอะ สำหรับใครที่กำลังผ่อนบ้านอยู่ ก็อย่าลืมรีไฟแนนซ์ทุกๆ 3 ปีด้วยนะครับ