เทศกาลงานแต่งวนมาหาทุกปี เป็นแค่แขกรับเชิญไม่พอ ยังต้องเตรียมเงินใส่ซองงานแต่งอีก คำถามยอดฮิตที่ตามมาตลอดคือ เงินใส่ซองงานแต่ง ต้องใส่เท่าไหร่? บางคนก็บอกให้ใส่ตามสะดวก อยากใส่เท่าไหร่ก็ใส่ บ้างก็ว่าให้ดูตามความสนิท จนเกิดเป็นคำตอบมากมายไม่รู้จบ วันนี้พี่โอกาสได้เตรียมสูตรคำนวณฉบับปี 2566 มาให้ทุกคนแล้ว ถูกเชิญไปงานแต่งคราวนี้ไม่ต้องมานั่งคิดให้ปวดหัว ตามมาดูกันเลยครับ
งานแต่งใส่ซองเท่าไหร่ คำนวณจากอะไรได้บ้าง
การจัดงานแต่งสักครั้ง มีองค์ประกอบมากมายที่ต้องเตรียม ไม่ว่าจะเป็น สถานที่ จำนวนโต๊ะ หรือรูปแบบอาหาร เพื่อให้วันแต่งงานออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด ซึ่งหลายๆ คนไม่ทราบว่า เราสามารถคำนวณเงินใส่ซองงานแต่ง ด้วยปัจจัยต่างๆ ภายในงานได้ จะมีอะไรบ้าง ตามไปดูกันเลยครับ
- อายุของเรากับบ่าวสาว: หากเรามีอายุที่น้อยกว่าตัวบ่าวสาว แม้จะใส่ซองน้อยก็ไม่ได้ดูน่าเกลียดอะไร ส่วนใครที่อายุเท่ากัน ไล่เลี่ยกันหรือมากกว่า ก็ควรใส่เงินเยอะขึ้นมาหน่อยครับ
- ความสัมพันธ์ของเรากับบ่าวสาว: ถ้าบ่าวสาวเป็นเพื่อนสนิทหรือญาติพี่น้องใกล้ชิด ก็ควรใส่จำนวนเงินเยอะหน่อย เพื่อแสดงถึงน้ำใจ หากไปร่วมงานแต่งของคนที่ไม่สนิทมาก ก็ให้ลดจำนวนเงินลงมา ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติที่เรามักจะใส่ซองให้คนสนิทมากกว่าคนที่รู้จักกันผิวเผิน
- สถานที่จัดงานแต่ง: เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่จะช่วยคำนวณเงินใส่ซองงานแต่งคร่าวๆ เพราะสถานที่จัดงานถือเป็นค่าใช้จ่ายหลักเลยก็ว่าได้ เราสามารถพิจารณาได้จากความหรูหราของสถานที่ เช่น โรงแรมห้าดาว โรงแรมธรรมดา หรือจัดที่บ้าน เป็นต้น
- รูปแบบอาหารในงานแต่ง: หากจัดเป็นโต๊ะจีน ซึ่งมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง เราก็ควรใส่เงินเยอะหน่อย ไม่ให้ดูน่าเกลียด ถ้าอาหารเป็นบุฟเฟต์ ค๊อกเทล ก็ค่อยลดจำนวนเงินตามความเหมาะสมครับ
ใส่ซองงานแต่ง สายคำนวณตามสูตร
หลังจากทราบปัจจัยสำคัญในงานแต่งแล้ว ก็ให้นำองค์ประกอบเหล่านั้นมาแทนค่าลงไป และคำนวณตามสูตร ก็จะได้จำนวนเงินใส่ซองงานแต่งของเราแล้วครับ
โดยเมื่อคำนวณออกมาแล้วต้องไม่เกิน 5% ของเงินเดือน เพราะอย่าลืมว่าตัวเราเองก็มีภาระอื่นๆ ที่ต้องใช้เงินเหมือนกัน ทั้งค่าครองชีพ ค่าผ่อนบ้าน ผ่อนรถ หรือแม้กระทั่งหนี้บัตรเครดิตที่ต้องจ่าย ฉะนั้น อย่าหน้าใหญ่ใจโตเกินไปนะครับ
(100 x A) x B + C + D = จำนวนเงินที่เราต้องใส่
A = อายุของเรากับบ่าวสาว
- อายุน้อยกว่าเจ้าบ่าว – เจ้าสาว = 2
- อายุเท่ากับเจ้าบ่าว – เจ้าสาว = 3
- อายุมากกว่าเจ้าบ่าว – เจ้าสาว = 4
B = ความสัมพันธ์ของเรากับบ่าวสาว
- เป็นเพื่อนสนิท / ลูกน้องของเจ้าบ่าว – เจ้าสาว = 1
- เป็นหัวหน้าของเจ้าบ่าว – เจ้าสาว = 2
C = สถานที่จัดงานแต่ง
- จัดงานแต่งที่บ้าน = 10%
- จัดโรงแรมธรรมดา = 25%
- จัดในโรงแรงหรูหรา = 50%
D = รูปแบบอาหารในงานแต่ง
- เลี้ยงพระ = 10%
- ค็อกเทล = 30%
- บุฟเฟต์ = 40%
- โต๊ะจีน = 50%
ยกตัวอย่างเหตุการณ์สมมติเช่น “อายุเท่ากับบ่าวสาว เป็นเพื่อนสนิทกัน งานแต่งจัดที่โรงแรมหรู เลี้ยงอาหารโต๊ะจีน” จะได้สมการออกมาเป็น (100 x 3) x 1 + 50% + 50% = 675 ดังนั้น จำนวนเงินใส่ซองงานแต่งของเราคือ 675 บาทครับ
ใส่ซองงานแต่ง สายตามกระแสสังคม
สำหรับใครที่ไม่ถนัดสายคำนวณ ขอแนะนำอีกวิธีนั่นก็คือ การใส่ซองงานแต่งตามกระแสสังคม เขาบอกให้ใส่เท่าไหร่ เราก็ใส่ตามเขาไปเลยครับ
จำนวนเงินใส่ซองงานแต่ง กรณีไม่ไปร่วมงานแต่ง
- ไม่สนิทกับเจ้าบ่าว – เจ้าสาว: 500 บาท
- เป็นเพื่อนสนิทกับเจ้าบ่าว – เจ้าสาว: 1,000 บาท
- เจ้าบ่าว – เจ้าสาวเคยมาร่วมงานแต่งของเรา: ใส่เท่าที่เคยได้มา
จำนวนเงินใส่ซองงานแต่ง กรณีไปร่วมงานแต่ง
- ไม่สนิทกับเจ้าบ่าว – เจ้าสาว: 1,000 – 2,000 บาท
- เป็นเพื่อนสนิทกับเจ้าบ่าว – เจ้าสาว: 2,000 – 3,000 บาท
- เจ้าบ่าว – เจ้าสาวเคยมาร่วมงานแต่งของเรา: ใส่เท่าที่เคยได้มา
คำถามอื่นๆ ที่พบบ่อยเกี่ยวกับการใส่ซองงานแต่ง
นอกจากจำนวนเงินใส่ซองงานแต่งที่เป็นข้อถกเถียงกันแล้ว ยังมีประเด็นอื่นๆ ที่คนมักจะสงสัยและพูดคุยกันบนโซเชียลอยู่ตลอด พี่โอกาสได้รวบรวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการใส่ซองงานแต่งมาให้แล้วครับ
เงินใส่ซองงานแต่ง ต้องเป็นเลขมงคลไหม?
บ่อยครั้งที่เลขมงคลมักจะเกี่ยวข้องกับงานแต่ง เช่น ฤกษ์แต่งงาน จำนวนอาหาร จำนวนขนมมงคล ช่วงเวลาเริ่มพิธีการ เริ่มเดินขบวนแห่ขันหมาก ค่าสินสอด ดังนั้น เงินใส่ซองงานแต่งเป็นเลขมงคลก็ได้เช่นกัน ถ้าพูดเลขที่น่าจะเหมาะที่สุดก็คงเป็นเลข 6 ที่สื่อถึง “จุดเริ่มต้นของความรัก” หรือจะใช้เลขคู่อื่นๆ อย่าง 2 4 8 เพื่อแสดงถึงบ่าวสาวจะได้ครองเป็นคู่กันไปตลอด แต่ในความเชื่อของคนไทยก็ยังมีเลขอื่นๆ ด้วย เช่น เลข 9 ที่สื่อถึงความเจริญก้าวหน้า และอายุยืนยาวครับ
เงินใส่ซองงานแต่ง เป็นเหรียญได้ไหม?
ฟังดูเป็นคำถามที่แปลกแต่ก็ยังมีคนสงสัย จริงๆ คำถามนี้ไม่ได้มีคำตอบตายตัวครับ ถามว่าใส่ได้ไหมมันก็ได้ แต่หากใส่เหรียญไปเยอะก็มีโอกาสที่ซองแต่งงานจะขาดได้ เพราะเหรียญหลายเหรียญก็มีน้ำหนักประมาณนึง เนื่องจากซองแต่งงานถูกออกแบบมาให้เป็นซองยาว ดังนั้น เงินใส่ซองงานแต่งเป็นแบงก์ก็น่าจะตอบโจทย์กว่าครับ
เงินใส่ซองงานแต่ง เป็นของใคร?
เจ้าบ่าวเจ้าสาวหลายคู่ อาจวางแผนอนาคตหลังแต่งงาน ว่าอยากจะมีลูกในอีก 1-3 ปี ซึ่งแน่นอนว่าต้องมีค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูลูก ดังนั้น ส่วนใหญ่เงินใส่ซองงานแต่งตกจะเป็นของบ่าวสาว ทั้งนี้ แล้วแต่เราตกลงกับครอบครัวอีกฝ่าย อย่าลืมพูดคุยกันให้ดี เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาในอนาคตนะครับ
ไปร่วมงาน แต่ไม่ใส่ซองงานแต่งได้ไหม?
หากไปร่วมแสดงความยินดีเฉยๆ และไม่ใส่ซองงานแต่ง สำหรับพี่โอกาสมองว่าไม่เป็นไรครับ เพราะแค่แขกมาร่วมงานก็บ่าวสาวดีใจแล้ว แต่ถ้าไปร่วมรับประอาหารในงานแต่งเขาด้วย ไม่ใส่ซองเลยอาจจะดูไม่เหมาะสมเท่าไหร่
ให้ของขวัญแทนการใส่ซองงานแต่งได้ไหม?
แขกไปร่วมงานหลายคนเลือกที่จะให้ของขวัญแทนเงินใส่ซองงานแต่ง เพราะมองว่าสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ในอนาคตและน่าจะถูกใจบ่าวสาวมากกว่าด้วย เช่น ของใช้ในบ้าน ต้นไม้มงคล เครื่องครัว เสื้อผ้า ของตกแต่งบ้าน หรือใครสะดวกให้เป็นเครื่องประดับ ของมีค่าอื่นๆ ตามความชอบของบ่าวสาวก็เป็นอีกวิธีที่ดีครับ
สรุป
อย่างไรก็ตาม วิธีคำนวณเงินใส่ซองงานแต่งข้างต้น เป็นเพียงการรวบรวมความคิดเห็นจากแพลตฟอร์มออนไลน์เท่านั้น เพราะสุดท้ายใครจะใส่เท่าไหร่ จะมากจะน้อย คำตอบก็ไม่มีผิดถูกอยู่ดี เป็นแค่ภาษีสังคมที่เราต้องจ่ายเท่านั้นเองครับ ทั้งนี้ เราต้องคำนึงถึงรายได้เป็นหลัก บริหารเงินของตัวเองให้ดี อย่าใส่มากเกินจนตัวเองเดือดร้อนนะครับ
