Home / บทความทั้งหมด / ทำไมคนรวยถึง ‘ผ่อนบ้าน’ ทั้งๆที่ซื้อด้วยเงินสดได้?

ทำไมคนรวยถึง ‘ผ่อนบ้าน’ ทั้งๆที่ซื้อด้วยเงินสดได้?

รวยพันล้าน

เมื่อไม่นานมานี้แอดเพิ่งอ่านบทความหนึ่งที่บอกว่า มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก เพิ่งรีไฟแนนซ์บ้านไป เลยสงสัยว่า ทำไมคนที่รวยระดับนั้น เลือกที่จะผ่อนบ้าน ทั้งๆที่ซื้อไปเลยก็ได้ จริงๆแล้วเรื่องนี้มันมีคำตอบอยู่ครับ เรามาดูวิธีคิดแบบคนรวยพันล้านกัน!

1.ค่าเสียโอกาส

เคยไหมครับที่ต้องตัดสินเลือกบางอย่าง แล้วเสียประโยชน์จากอีกทางเลือกไป กรณีนี้ทางเศรษฐศาสตร์เค้าเรียกว่า “ค่าเสียโอกาส” ครับสมมุติว่าคุณเป็นเศรษฐีพันล้าน ถ้านำเงินเก็บหลักล้านไปซื้อบ้าน ค่าเสียโอกาสของคุณจะเป็นอะไรได้บ้าง

คำตอบก็คือ “เสียโอกาสในการลงทุน” ถ้าให้เลือกระหว่าง เสียดอกเบี้ยบ้านปีละประมาณ 2-4% กับได้ผลตอบแทนจากการจากลงทุนสินทรัพย์ปีละ 5-20% เป็นคุณจะเลือกอะไร

ก็ต้องเอาไปลงทุนสิครับซึ่งทางเลือกก็มีหลากหลายไม่ว่าจะเป็น ธุรกิจของตัวเอง, กองทุน, หุ้น, อสังหา หรือแม้แต่ประกันออมทรัพย์ก็อาจให้ผลตอบแทน IRR สูงกว่าดอกเบี้ยบ้าน

เลยไม่สงสัยเลยว่า ทำไมคนรวยพันล้านถึงคิดแบบนั้น แต่แน่นอนว่าควรต้องกระจายความเสี่ยงการลงทุนด้วย

2.ยิ่งยอดสูง รายได้มั่นคง ดอกเบี้ยยิ่งถูก

ยิ่งต้องการเงินน้อยเท่าไหร่ ธนาคารยิ่งอยากให้คุณกู้ เพราะการให้สินเชื่อนั้นคำนวณจากความเสี่ยงเราอาจจะเคยได้ยิ่งประโยคด้านการลงทุนที่บอกว่า “High Risk High Return” ที่แปลว่า ยิ่งเสี่ยงมาก ผลตอบแทนยิ่งสูง

ดอกเบี้ยก็เหมือนกัน แต่ในบริบทนี้จะเป็น “ยิ่งความเสี่ยงน้อย ดอกเบี้ยยิ่งถูก” ทำให้คนที่มีรายได้สูง และเสี่ยงน้อย มีโอกาสที่จะได้อัตราดอกเบี้ยน้อยกว่าคนที่มีความเสี่ยงเยอะ หรือผิดนัดชำระหนี้บ่อย

3.ดอกเบี้ยบ้านลดหย่อนภาษีได้

หลายคนไม่รู้ว่า ดอกเบี้ยบ้านที่จ่ายไปทุกๆเดือน ไม่ได้จ่ายไปเปล่าๆนะครับ สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ด้วยซึ่งดอกเบี้ยจากการผ่อนบ้านจะสามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้ตามจริง แต่ไม่เกิน 100,000 บาท ประหยัดไปได้เยอะเลยครับ

4.Cash is King

ทุกครั้งที่เกิดวิกฤต “การมีเงินสดอยู่ในมือ” หรือสินทรัพย์ที่เปลี่ยนเป็นเงินได้ง่าย เรียกได้ว่าเป็น หัวใจหลักของธุรกิจเพราะการมีเงินสดในมือไว้ในสัดส่วนที่เหมาะสมจะทำให้ มีโอกาสซื้อของแพงในราคาถูก หรือเพิ่มโอกาสในการลงทุน

หลายคนเลยมองว่า การซื้อบ้านด้วยเงินสดทำให้เสียสภาพคล่องไป แต่ทุกอย่างก็มีข้อดีข้อเสีย การถือเงินสดมากไปก็ไม่ดี เพราะนานไปอาจมูลค่าลดลงจากเงินเฟ้อ ต่างจากอสังหาที่ราคามักจะสูงขึ้นเรื่อยๆ

นอกจากนี้ดอกเบี้ยบ้านจะไม่สูงเลย ถ้าเราได้ “รีไฟแนนซ์บ้านทุกๆ 3 ปี” ซึ่งจะทำให้ประหยัดดอกเบี้ยไปได้หลักแสน สำหรับใครที่อยากลดดอกเบี้ยบ้านด้วยการรีไฟแนนซ์ สามารถเปรียบเทียบ, ปรึกษาและ รีไฟแนนซ์บ้านผ่าน FINSTREET ได้ฟรี ไม่คิดค่าบริการเลยครับ

สรุป

คนธรรมดาแบบเราๆ ก็มีวิธีคิดแบบคนรวยได้ การเป็นหนี้บ้านไม่ใช่เรื่องน่ากลัว แต่ที่น่ากลัวคือ การที่เราไม่รู้ทางเลือกในการลงทุนอื่นๆ ตัดสินใจโดยไม่เปรียบเทียบ หรือจ่ายดอกเบี้ยไปฟรีๆโดยไม่ ลดดอกเบี้ยบ้าน เพราะฉะนั้น “ความรู้ทางการเงินจึงสำคัญ”

Droplead New

Let us know who you are